พูดถึงกฎหมาย ประเทศไทยสามารถคุยได้ว่าไม่แพ้ใครในโลก เริ่มตั้งแต่รัฐธรรมนูญ กฎหมายสูงสุดของประเทศ มีมาแล้วถึง 20 ฉบับ ใน 92 ปี หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง อาจมากที่สุดในโลก เปรียบเทียบกับสหรัฐอเมริกา ที่มีรัฐธรรมนูญแค่ฉบับเดียว หลังประกาศเอกราชกว่า 200 ปี
แต่สิ่งที่ประเทศไทยต้องยอมรับก็คือ แม้จะมีกฎหมายมากมาย ทั้งที่ล้าสมัยและทันสมัย แต่มีปัญหามากที่สุด คือการบังคับใช้กฎหมาย เห็นได้ชัดที่สุดจากเรื่องที่เป็นข่าวใหญ่อย่างต่อเนื่อง ข่าวแรกคือกรณีที่อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ที่ศาลพิพากษาจำคุก 8 ปี แต่ไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียวก็เป็นอิสระ
อีกกรณีหนึ่งคือการบังคับใช้กฎหมายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ตำรวจซึ่งเป็นเจ้าพนักงานสอบสวน จะนำหมายเรียกไปให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.รับทราบข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ก็ยากเย็นแสนเข็ญ “บิ๊กโจ๊ก” บอกนักข่าวว่ายังไม่ได้รับหมายเรียก ต้องดูว่าเป็นหมายที่ชอบกฎหมายหรือไม่
ความขัดแย้งในวงการตำรวจ ที่เริ่มต้นจากการนำกำลังตำรวจบุกค้นบ้านบิ๊กโจ๊กเมื่อหลายเดือนก่อน ตามด้วยการเปิดเผยคดีบิ๊กโจ๊กกับลูกน้องถูกกล่าวหา ทำผิด ป.อาญามาตรา 149 และ 157 และมีเสียงตอบโต้จาก รอง ผบ.ตร.ว่า ทำไมไม่เอาผิดตำรวจชั้นผู้ใหญ่รับเงินจากเว็บพนัน
แต่ทำไมจึงจ้องเล่นงานตนกับลูกน้อง มีเสียงขู่ว่าจะให้ทนายตั้งโต๊ะแถลง เปิดโปงเส้นทางการเงินของการรับเงินจากเว็บพนันเถื่อนถึงแม้ ผบ.ตร.พยายามแก้ปัญหา ด้วยการออกคำสั่ง “ปิดปาก” ห้ามคู่ขัดแย้งให้ข่าวสื่อมวลชน ก็ไม่ได้ผล แม้แต่นายกรัฐมนตรีก็บอกได้แต่เพียงว่าเป็นเรื่องกฎหมาย
ทุกประเทศมีกฎหมายเพื่อการปกครองประเทศ ประเทศเผด็จการยึดระบบอำนาจนิยม ยึดถือบุคคลผู้มีอำนาจเป็นใหญ่ มีอำนาจเหนือกฎหมาย ยึดหลักอุปถัมภ์ หรือระบบพวกพ้องน้องพี่ ผู้มีอำนาจกลายเป็นอภิสิทธิ์ชน มีอำนาจเหนือกฎหมาย ไม่คำนึงถึงหลักนิติรัฐนิติธรรม นิยมระบบ “ฮาร์พาวเวอร์”