พี.เจ. แอคเค้าท์ติ้ง แอนด์ ลอว์เฟิร์ม > คดีแพ่งและพาณิชย์ > การหย่าร้าง

การหย่าร้าง

ความสัมพันธ์และความรัก ไม่ใช่เพียงการผูกมิตรกับใครสักคน แต่เป็นการคาดหวังว่าจะสร้างอนาคตร่วมกัน เมื่อเราตัดสินใจที่จะแต่งงาน ไม่มีใครอยากที่จะต้องหย่าร้าง คู่สมรสทุกคนก็ตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตกับคนๆ นี้ไปตลอดชีวิต

การหย่าร้างจึงเป็นวิกฤตการณ์ของชีวิตสมรสที่คู่สมรสทุกคู่พยายามจะหลีกเลี่ยง แต่ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ทุกคู่ บางคู่สามารถอยู่กันได้ไปตลอดรอดฝั่ง จนแก่เฒ่า แต่บางคู่อยู่ด้วยกันโดยไม่มีความสุข ก็จบลงด้วยการหย่าร้าง เรื่องความรักความสัมพันธ์ในกรณีที่เป็นคู่รัก มีเริ่มต้นและมักจะมีจบลง ต่างคนต่างมีชีวิตของตนเองต่อไป

ซึ่งในกระบวนการหย่าร้างตามกฎหมายไทย มี 2 กรณี คือ
1. การหย่าด้วยความสมัครใจทั้งสองฝ่าย
2. การหย่าโดยการฟ้องหย่าต่อศาลไทย

การหย่าด้วยความสมัครใจทั้งสองฝ่าย
การหย่าด้วยความสมัครใจทั้งสองฝ่าย คือ การจดทะเบียนการหย่า ที่สำนักงานเขต หรือ ที่ว่าการอำเภอ
สำหรับคนไทย เอกสารที่จำเป็นในการจดทะเบียนการหย่า
1. บัตรประจำตัวประชาชน
2. ใบสำคัญการสมรส
3. หนังสือสัญญาการหย่า (กรณีได้ตกลงเรื่อง สินสมรส หรือ เรื่องอำนาจการปกครองบุตรไว้ก่อนหรือขณะหย่า)
4.สำเนาทะเบียนบ้าน
6. เตรียมพยานบุคคลไป 2 คน เพื่อนำไปลงลายมือชื่อรับรู้ในเรื่องความสมัครใจยินยอมของฝ่ายชายและฝ่ายหญิงในการจดทะเบียนการหย่า

สำหรับชาวต่างชาติ เอกสารที่จำเป็นในการจดทะเบียนการหย่า
1. หนังสือเดินทาง หรือ ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว หรือ เอกสารราชการอื่นที่สามารถใช้แสดงตัวบุคคลได้ ของผู้ร้อง และของผู้ให้ความยินยอม และของพยาน โดยผ่านการรับรองจากสถานทูต สถานกงสุล หรือ Notary Public ของไทย
2. ใบสำคัญการสมรส
3. หนังสือสัญญาการหย่า (กรณีได้ตกลงเรื่อง สินสมรส หรือ เรื่องอำนาจการปกครองบุตรไว้ก่อนหรือขณะหย่า)
4. เตรียมพยานบุคคลไป 2 คน เพื่อนำไปลงลายมือชื่อรับรู้ในเรื่องความสมัครใจยินยอมของฝ่ายชายและฝ่ายหญิงในการจดทะเบียนการหย่า

การหย่าโดยการฟ้องร้องต่อศาลไทย
การหย่า โดยกระบวนการนี้ คือ การหย่าโดยมีฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งไม่ยิมยอมในการหย่า ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว เมื่อจดทะเบียนสมรสกันแล้ว หากมีฝ่ายหนึ่งที่ไม่ยินยอมในการหย่า คู่สมรสก็ไม่สามารถหย่าได้เลย แต่อย่างไรก็ตามมกฎหมายไทย ได้มีหลักเกณฑ์ที่คู่สมรสฝ่ายหนึ่งจะสามารถใช้สิทธิหย่าได้ หากเข้าข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้
(1) สามีหรือภริยาอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันภริยาหรือสามี เป็นชู้หรือมีชู้ หรือร่วมประเวณีกับผู้อื่นเป็นอาจิณ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(2) สามีหรือภริยาประพฤติชั่ว ไม่ว่าความประพฤติชั่วนั้นจะเป็นความผิดอาญาหรือไม่ ถ้าเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่ง
(ก) ได้รับความอับอายขายหน้าอย่างร้ายแรง
(ข) ได้รับความดูถูกเกลียดชังเพราะเหตุที่คงเป็นสามีหรือภริยาของฝ่ายที่ประพฤติชั่วอยู่ต่อไป หรือ
(ค) ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินควร ในเมื่อเอาสภาพ ฐานะและความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคำนึงประกอบ
อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(3) สามีหรือภริยาทำร้าย หรือทรมานร่างกายหรือจิตใจ หรือหมิ่นประมาทหรือเหยียดหยามอีกฝ่ายหนึ่งหรือบุพการีของอีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งนี้ ถ้าเป็นการร้ายแรง อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(4) สามีหรือภริยาจงใจละทิ้งร้างอีกฝ่ายหนึ่งไปเกินหนึ่งปี อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(4/1) สามีหรือภริยาต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก และได้ถูกจำคุกเกินหนึ่งปีในความผิดที่อีกฝ่ายหนึ่งมิได้มีส่วนก่อให้เกิดการกระทำความผิดหรือยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดนั้นด้วย และการเป็นสามีภริยากันต่อไปจะเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งได้รับความเสียหายหรือเดือนร้อนเกินควร อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(4/2) สามีและภริยาสมัครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขตลอดมาเกินสามปี หรือแยกกันอยู่ตามคำสั่งของศาลเป็นเวลาเกินสามปี ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(5) สามีหรือภริยาถูกศาลสั่งให้เป็นคนสาบสูญ หรือไปจากภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่เป็นเวลาเกินสามปีโดยไม่มีใครทราบแน่ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(6) สามีหรือภริยาไม่ให้ความช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูอีกฝ่ายหนึ่งตามสมควรหรือทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่เป็นสามีหรือภริยากันอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ ถ้าการกระทำนั้นถึงขนาดที่อีกฝ่ายหนึ่งเดือดร้อนเกินควรในเมื่อเอาสภาพ ฐานะและความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคำนึงประกอบ อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(7) สามีหรือภริยาวิกลจริตตลอดมาเกินสามปี และความวิกลจริตนั้นมีลักษณะยากจะหายได้ กับทั้งความวิกลจริตถึงขนาดที่จะทนอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาต่อไปไม่ได้ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(8) สามีหรือภริยาผิดทัณฑ์บนที่ทำให้ไว้เป็นหนังสือในเรื่องความประพฤติ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(9) สามีหรือภริยาเป็นโรคติดต่ออย่างร้ายแรงอันอาจเป็นภัยแก่อีกฝ่ายหนึ่งและโรคมีลักษณะเรื้อรังไม่มีทางที่จะหายได้ อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(10) สามีหรือภริยามีสภาพแห่งกายทำให้สามีหรือภริยานั้นไม่อาจร่วมประเวณีได้ตลอดกาล อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้