ประเทศไทยแม้จะอ้างว่าเป็นประชาธิปไตยมาเกือบร้อยปี มีการเลือกตั้งไม่รู้กี่ครั้ง และมีรัฐธรรมนูญมาถึง 20 ฉบับ อาจจะมากที่สุดในโลก ประเทศประชาธิปไตยทั่วโลก ถือว่ารัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศจะมีกฎหมายอื่นขัดต่อรัฐธรรมนูญไม่ได้ แต่ดูเหมือนว่ามีคนบางส่วนถือกฎหมายคนละฉบับ
กฎหมายที่กำกับดูแลพื้นที่ที่เรียกโดยรวมว่า “เขาใหญ่” ที่มีอาณาเขตครอบคลุมหลายจังหวัด แต่ผู้กำกับดูแลอาจใช้กฎหมายคนละฉบับ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ อาจถือ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติเป็นหลัก ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์อาจถือกฎหมายปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก.เป็นหลัก
ทั้งที่รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต่างก็มาจากพรรคพลังประชารัฐ ส่วนการตีความกฎหมายต่างกันอยู่แล้ว การตีความคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ว่าการหาเสียงของพรรคก้าวไกลด้วย ม.112 เป็นการล้มล้างการปกครอง ปชต. อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตีความตามกฎหมายพรรคการเมือง ที่ระบุว่า พรรคที่ล้มล้างระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ทำให้ยุบพรรคได้ ในขณะที่พรรคก้าวไกลอยากให้ตีความตามรัฐธรรมนูญ ม.49 โดยให้ร้องต่ออัยการสูงสุดเพื่อให้หยุดการกระทำที่อาจล้มล้างการปกครอง
ยิ่งในวงการตำรวจ ผู้มีอำนาจโดยตรงในการบังคับใช้กฎหมาย ยิ่งตีความกฎหมายแบบมากเรื่องมากความ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ยืนกรานว่าคดีที่ตำรวจถูกกล่าวหารับเงินจากเว็บการพนัน จะต้องให้ ป.ป.ช.เป็นผู้สอบสวนดำเนินคดี ขณะที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว มีความเห็นต่าง
กลายเป็นประเด็นของการวิวาทะครั้งใหญ่ ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แม้ ผบ.ตร.จะพยายามประนีประนอม “ปิดปาก” ห้ามฝ่ายที่เกี่ยวข้องไม่ให้ข่าวสื่อมวลชน แต่บานปลายกลายเป็นอีกคดี เมื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฟ้อง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เพราะ ผบ.ตร.ไม่ได้ห้ามฟ้อง